Thursday 30 July 2009

วิธีการแก้ไขไอคอนการเชื่อมต่อเครือข่ายสูญหายใน Windows Server 2003 และใน Windows XP

บทความนี้อธิบายวิธีการแก้ปัญหาที่คุณสามารถใช้เพื่อแก้ไขกรณีที่ไอคอนเครือข่ายและ dial-up connections สูญหายไป ปัญหาอย่างน้อยหนึ่งอย่างต่อไปนี้เกิดขึ้นหากคุณคลิกStart เลือกแล้วคลิก Control Panelจากนั้นดับเบิลคลิกที่ Network Connectionsหรือหากคุณคลิกขวา My Network Places บนเดสก์ทอปแล้วคลิกProperties:
ไอคอนการเชื่อมต่อ LAN or High-Speed Internet สูญหายไป
ไอคอน Dial-up Connection สูญหายไป
ไอคอน New Connection Wizard สูญหาย
ปรากฏเฉพาะไอคอน New Connection Wizard หรือปรากฏ dial-up connection อย่างน้อยหนึ่งไอคอนด้วย
หากคุณคลิกเมนู Advanced แล้วคลิก Advanced Settings เฉพาะรายการ [Remote Access connections] ปรากฏขึ้นในรายการ Connections
วินโดว์ Network Connections หยุดการตอบสนอง ("แฮงค์") หรือปิดไปอย่างกะทันหันหลังจากคุณเลือก network connection แล้วคลิก Properties
นอกจากปัญหาเหล่านี้ การทำงานของเครือข่ายยังเป็นปกติ และคำสั่ง ipconfig ยังแสดงการเชื่อมต่อและข้อมูลอะแดปเตอร์ทั้งหมด

คำเตือน หากคุณใช้ Registry Editor ไม่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงซึ่งอาจทำให้คุณต้องติดตั้งระบบปฏิบัติการใหม่ Microsoft ไม่สามารถรับรองได้ว่าคุณสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้ Registry Editor ไม่ถูกต้อง การใช้งาน Registry Editor ถือเป็นความรับผิดชอบของคุณเอง

การแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:
ตรวจสอบการตั้งค่าเน็ตเวิร์กอะแดปเตอร์:
คลิกขวาที่ My Computer แล้วคลิกProperties
คลิกที่แท็บ Hardware และคลิกที่ Device Manager
ขยาย Network Adapters แล้วตรวจสอบดูว่ามีการแสดงรายชื่อเน็ตเวิร์กอะแดปเตอร์ไว้ถูกต้อง
ดับเบิลคลิกที่ network adapter แล้วตรวจสอบดูว่าปรากฏข้อความ "This device is working properly" ขึ้นในช่อง Device status ในแท็บ General
ตรวจสอบดูว่าเซอร์วิสต่างๆ ที่จำเป็นเริ่มไว้แล้ว:
คลิกขวาที่ My Computer แล้วคลิกManage
ขยาย Services and Applications แล้วคลิก Services
ในช่องด้านขวา ตรวจสอบว่าได้เริ่มเซอร์วิสต่างๆ ต่อไปนี้แล้ว:
Remote Procedure Call (RPC)
Network Connections (เซอร์วิสนี้ขึ้นกับเซอร์วิส RPC)
Plug and Play
COM+ Event System (เซอร์วิสนี้ขึ้นกับเซอร์วิส RPC)
Remote Access Connection Manager (เซอร์วิสนี้ขึ้นกับเซอร์วิส Telephony)
Telephony (เซอร์วิสนี้ขึ้นกับเซอร์วิส RPC และ PnP)
ตรวจสอบการตั้งค่าการล็อกออน:
ดับเบิลคลิกที่เซอร์วิส COM+ Event System
คลิกแท็บ Log On
ใต้ Log on as ตรวจดูว่าได้เลือกLocal System account แล้ว การตั้งค่านี้เป็นค่าดีฟอลต์
ตรวจสอบดูการตั้งค่าการโต้ตอบของเดสก์ทอป
ดับเบิลคลิกเซอร์วิส Network Connection
คลิกแท็บ Log On
ใต้ Log on as ตรวจดูว่าได้เลือกLocal System account แล้ว
ตรวจสอบดูว่า ได้เปิดตัวเลือก Allow service to interact with desktop แล้ว
ตรวจสอบการตั้งค่าเซอร์วิสเน็ตเวิร์ก:
ใน Control Panel ดับเบิลคลิก Add or Remove Programs
คลิก Add/Remove Windows Components
คลิก Networking Services แล้วคลิก Details ตรวจสอบดูว่าได้เปิด Simple TCP/IP Services แล้ว
ตรวจสอบดูว่าไฟล์ network DLL รีจิสเตอร์ไว้อย่างถูกต้องแล้ว:
คลิกที่ Start และคลิกที่ Run
พิมพ์ cmd.exe แล้วคลิก OK
พิมพ์บรรทัดต่อไปนี้ แล้วกด ENTER หลังจากคุณพิมพ์แต่ละบรรทัด คลิก OK เมื่อไดอะล็อกบ็อกซ์ RegSvr32 ปรากฏขึ้นสำหรับแต่ละคำสั่ง
regsvr32 netshell.dll
regsvr32 netcfgx.dll
regsvr32 netman.dll
รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์
ตรวจสอบดูว่า Windows Protected Files ทั้งหมดในโฟลเดอร์ System 32 ยังคงมีอยู่

ที่พรอมต์คำสั่ง ให้พิมพ์ sfc /purgecache แล้วกด ENTER Windows File Checker จะเริ่มต้นทำงาน
ตรวจสอบดูว่ารีจิสตรีคีย์ยังคงอยู่และถูกต้อง:
เริ่ม Registry Editor
ค้นหาและคลิกที่คีย์ย่อยของรีจิสตรีต่อไปนี้:
HKEY_CLASSES_ROOT\Interface\{0000010C-0000-0000-C000-000000000046}
ตรวจสอบดูว่าซับคีย์ NumMethods และProxyStubClsid32 มีอยู่และค่าถูกต้อง หากไม่พบรีจิสตรีคีย์เหล่านี้ ให้สร้างขึ้น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างรีจิสตรีซับคีย์เหล่านี้ ให้คลิกหมายเลขบทความต่อไปนี้ เพื่อดูบทความใน Microsoft Knowledge Base:
269019 ไอคอนโฟลเดอร์ Network and dial-up connections หายไป (ลิงค์นี้อาจเชื่อมโยงไปยังเนื้อหาที่เป็นภาษาอังกฤษบางส่วน หรือทั้งหมด)
ใช้ยูทิลิตี Dcomcnfg.exe เพื่อรีเซ็ตการตั้งค่า Default Impersonation Level:
คลิกที่ Start คลิก Run พิมพ์ dcomcnfg และคลิกที่ OK
ใน Component Services คลิก Computers คลิกขวาที่คอมพิวเตอร์ที่คอมพิวเตอร์ที่คุณต้องการแก้ไข แล้วคลิก Properties
คลิกแท็บ Default Properties แล้วคลิก Enable Distributed COM on this computer เพื่อเลือกช่องทำเครื่องหมาย สำหรับคอมพิวเตอร์เครื่องนี้
คลิกการตั้งค่าใดๆ นอกจาก Anonymous ในช่อง Default Impersonation Level แล้วคลิก OK

ระดับของเครื่องใหม่จะสามารถใช้ได้ในครั้งถัดไปที่คุณเปิดโปรแกรม โปรแกรมที่กำลังรันไม่ได้รับผลจนกว่าคุณจะเริ่มต้นโปรแกรมใหม่
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้คลิกหมายเลขบทความต่อไปนี้ เพื่อดูบทความใน Microsoft Knowledge Base
273461 ไม่ปรากฏไอคอน Network and dial-up connection เมื่อคุณใช้คำสั่ง เพื่อกำหนดระดับ impersonation level เป็น anonymous (ลิงค์นี้อาจเชื่อมโยงไปยังเนื้อหาที่เป็นภาษาอังกฤษบางส่วน หรือทั้งหมด)
หากไม่ปรากฏไอคอน Dial-up Connection ให้เพิ่มโมเด็มมาตรฐานชั่วคราวเพื่อดูว่าปรากฏไอคอนการเชื่อมต่อหรือไม่
ตรวจสอบดูให้แน่ใจว่าไม่มีเน็ตเวิร์กอะแดปเตอร์ โกสต์หรือซ่อนอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณหรือไม่ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้คลิกหมายเลขบทความต่อไปนี้ เพื่อดูบทความใน Microsoft Knowledge Base
269155 ข้อความแสดงข้อผิดพลาดเมื่อคุณพยายามกำหนดไอพีแอดเดรสให้เน็ตเวิร์กอะแดปเตอร์ (ลิงค์นี้อาจเชื่อมโยงไปยังเนื้อหาที่เป็นภาษาอังกฤษบางส่วน หรือทั้งหมด)
ลบเน็ตเวิร์กอะแดปเตอร์ใน Device Manager:
คลิกขวาที่ My Computer คลิก Properties คลิกแท็บ Hardware แล้วคลิก Device Manager
การดูรายชื่อของเน็ตเวิร์กอะแดปเตอร์ที่ติดตั้งไว้ ให้ดับเบิลคลิกที่ Network adapter(s) แล้วคลิก Remove
รีสตาร์ทเครื่องคอมพิวเตอร์ แล้วให้ระบบตรวจสอบและติดตั้งไดรเวอร์เน็ตเวิร์กอะแดปเตอร์โดยอัตโนมัติ
หมายเหตุ ขั้นตอนนี้จะตรวจสอบและแก้ไขรายการรีจิสตรีที่มีปัญหาในการไบน์เน็ตเวิร์กอะแดปเตอร์ ทำตามขั้นตอนนี้หากขั้นตอนการแก้ไขปัญหาอื่นๆ ทั้งหมดไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ทำตามขั้นตอนนี้เสมอก่อนที่คุณจะตัดสินใจลบการ์ดเน็ตเวิร์กอะแดปเตอร์เอง
ลบซอฟท์แวร์จัดการเน็ตเวิร์กอะแดปเตอร์อื่นๆ ลบซอฟท์แวร์ทีมชั่วคราว การผสมผสานต่อไปนี้ไม่สามารถใช้งานได้:
Dual-Port Intel Pro 100+ Server Adapter และ Intel Teaming Software รันคอมโปเนนท์ SNMP

สำหรับเวอร์ชันอัปเดทของเอเจนต์ Intel SNMP (Ilansnmp.dll) และสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อบริษัทผู้ผลิตเน็ตเวิร์กอะแดปเตอร์หรือซอฟต์แวร์อื่นๆ หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม โปรดคลิกที่หมายเลขบทความต่อไปนี้เพื่อดูบทความใน Microsoft Knowledge Base:
811876 ไม่ปรากฏในรายชื่อ Network adapters ในรายชื่อ network adapters และ Cluster Server หยุดตอบสนองเมื่อมีการติดตั้งเอเจนต์ Intel SNMP (ลิงค์นี้อาจเชื่อมโยงไปยังเนื้อหาที่เป็นภาษาอังกฤษบางส่วน หรือทั้งหมด)
278431 การใช้อะแดปเตอร์ teaming กับการโหลดบาลานซ์ของเครือข่ายอาจทำให้เกิดปัญหากับเครือข่ายได้ (ลิงค์นี้อาจเชื่อมโยงไปยังเนื้อหาที่เป็นภาษาอังกฤษบางส่วน หรือทั้งหมด)
หากการเชื่อมต่อถูกลบหลังจากคุณเชื่อมต่อกับเครือข่ายด้วยตนเอง ให้ทำตามขั้นตอนต่างๆ ต่อไปนี้:
รีสตาร์ทเครื่องคอมพิวเตอร์ขณะที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับเครือข่ายเพื่อดูว่า Group Policy object (GPO) กำลังถูกดาวน์โหลด
เริ่มเครื่องมือ Group Policy Results เพื่อดูว่ามีการใช้ GPOs ใดบ้าง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้เครื่องมือ Group Policy Results คลิกที่หมายเลขบทความต่อไปนี้เพื่อดูบทความใน Microsoft Knowledge Base:
321709 วิธีการใช้เครื่องมือ Group Policy Results ใน Windows 2000 (ลิงค์นี้อาจเชื่อมโยงไปยังเนื้อหาที่เป็นภาษาอังกฤษบางส่วน หรือทั้งหมด)


นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้ Group Policy Management Console เพื่อตรวจสอบ Group Policy Objects Group Policy Management Console สามารถใช้ได้เพื่อดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ต่อไปนี้ของไมโครซอฟท์:
http://www.microsoft.com/downloads/details.aspx?displaylang=en&FamilyID=0A6D4C24-8CBD-4B35-9272-DD3CBFC81887
คลิก Start คลิก Run พิมพ์ gpedit.msc แล้วกด ENTER
ค้นหาและเปิด Group policy/User Configuration/Windows Settings/Internet Explorer Maintenance/Connection/Connection Settings/
คลิกเพื่อยกเลิกการเลือกช่องทำเครื่องหมาย Delete existing Dial-up Connection Settings
ที่พรอมต์คำสั่ง ให้พิมพ์ winmgmt /clearadap และกด ENTER

คำสั่งนี้ลบข้อมูล AutoDiscovery/AutoPurge (ADAP) ทั้งหมดจากรีจิสตรีและรีเซ็ตสถานะของแต่ละ performance library เครื่องมือ ADAP บันทึกข้อมูลสถานะเกี่ยวกับไลบรารีประสิทธิภาพของระบบในรีจิสตรี สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้คลิกหมายเลขบทความต่อไปนี้ เพื่อดูบทความใน Microsoft Knowledge Base
266416 วิธีการแก้ปัญหาการเกิดข้อผิดพลาดในตัววัดประสิทธิภาพ WinMgmt (ลิงค์นี้อาจเชื่อมโยงไปยังเนื้อหาที่เป็นภาษาอังกฤษบางส่วน หรือทั้งหมด)
เมื่อคุณคลิกขวาที่ไอคอน My Network Places แล้วคลิก Properties วินโดว์ Network Connections จะเริ่มเปิดแต่จะปิดไปอย่างกะทันหันหรือ "แฮงค์" โดยการแก้ไขปัญหา ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:
เริ่ม Registry Editor
ค้นหาและคลิกที่คีย์ย่อยของรีจิสตรีต่อไปนี้:
HKEY_LOCAL_MACHINE\SYSTEM\CurrentControlSet\Control\Network
คลิกขวาที่ซับคีย์ Network คลิก Export แล้วบันทึกสาขาที่เลือกไว้ในไฟล์
คลิกซับคีย์ Network อีกครั้ง แล้วลบรายการ Config ห้ามลบซับคีย์ Network รายการ Config จะถูกสร้างขึ้นใหม่เมื่อคุณรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์
รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ (คุณอาจต้องปิดเครื่องคอมพิวเตอร์เอง)
ผลิตภัณฑ์ของบุคคลที่สามที่กล่าวถึงในบทความนี้ ผลิตขึ้นโดยบริษัทที่ไม่ขึ้นอยู่กับไมโครซอฟท์ Microsoft ไม่มีการรับประกัน ทั้งโดยนัยหรืออย่างอื่นใด เกี่ยวกับประสิทธิภาพหรือความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์เหล่านี้
สำหรับปัญหาการทำงานร่วมกันได้ระหว่างไดรเวอร์อื่นๆ และ Windows Service Pack ล่าสุด ให้ทำตามขั้นตอนต่างๆ ต่อไปนี้:
คลิก Start เลือกที่ All Programs แล้วคลิก Windows Update
คลิก Custom Install แล้วคลิก Select optional hardware update เพื่อดูและติดตั้งการอัปเดทฮาร์ดแวร์ต่างๆ ที่มี


ย้าย Domain จาก Windows 2000 มาเป็น Windows 2003 R2

Step ผมก็ตามนี้ครับ

คือผมต้องการจะย้าย Domain จาก Windows 2000 มาเป็น Windows 2003 R2 ผมก็ได้ทำตาม Step ดังต่อไปนี้ครับ (แบ่งเป็น 2 เครื่องนะครับ)
ที่เครื่อง Domain Windows 2000
1. Check Hotfixes and update SP1 for Windows 2000 Server
2. Backup System State
3. Run Adprep/forestprep (จากแผ่น Windows 2003 R2 Disk 2)
4. Run Adprep/Domainprep (จากแผ่น Windows 2003 R2 Disk 2)
5. Checklog Adprep.log (C:\%systemroot%\system32\debug\adprep\Year-Month-Day\adprep.log)

*** IP Address ของ Windows 2000 ***
*** IP 192.168.1.1 Mask 255.255.255.0 DNS 192.168.1.1***


เมื่อทำตามขั้นตอนทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยผมก็มาเริ่มจัดการเครื่องที่เป็น Windows 2003 R2
1. Install Windows 2003 R2 Server
2. กำหนด IP ของ Windows 2003 เท่ากับ IP 192.168.1.2 Mask 255.255.255.0 DNS 192.168.1.1
3. Enable service DNS
3. จากนั้นก็ Run = "dcpromo" = "Additional Domain"
4. เมื่อเรียบร้อยมันก็จะจัดการตัว Active Directory และ DNS มาที่เครื่อง Windows 2003
(ขั้นตอนที่ 4 ผมรอให้มัน replicate กันประมาณ 1 วัน)

จากนั้นก็กลับไปที่เครื่อง Domain Windows 2000
สิ่งที่ต้อง Update มีดังนี้
1. Schema master
2. Domain nameing master
3. RID Master
4. PDC
5. Infrastructure master
ส่งที่ต้องใช้ในการ Update ก็คือ "ntdsutil" เพื่อใช้แก้ไข Schema master, Domain Nameing Master, RID, PDC, Infrastructure master
1. Click Start, click Run, ใส่คำว่า ntdsutil ลองในช่อง แล้วกด OK.
2. พิมพ์คำสั่ง roles กด Enter
3. พิมพ์คำสั่ง connections กด Enter
4. พิมพ์คำสั่ง connect to server servername : คำว่า servername ให้ใส่ชื่อ server ที่ต้องการจะย้ายไป
5. พิมพ์คำสั่ง q กด Enter
6. จากนั้นก็ใส่เครื่องหมายคำถาม (?) เพื่อดูว่ามีคำสั่งอะไรบ้าง
7. ให้เริ่มทำตั้งแต่ Transfer Domain, Infrastructure, PDC, RID, Schema ให้เสร็จทั้งหมดก่อน แล้วค่อยทำต่อด้วย Seize Domain, Infrastructure, PDC, RID, Schema
8. เมื่อทำเสร็จหมดแล้วให้ใส่คำสั่ง q กด Enter เพื่อออกจาก ntdsutil
9. จากนั้นไปที่ Active Directory Sites and Service
10. Double-click Sites แล้วคลิ๊กที่ Default - first-site-name
11. click Server folder, double-click NTDS Settings
12. click Action, cilck Properties
13. ตรง General tab เอาเครื่องหมายถูกตรง Global Catalog ออกครับ แล้วไปคลิ๊กที่ Server ตัวใหม่แทน

กลับมาที่เครื่อง Windows 2003 R2
1. ให้ไปแก้ไข IP DNS จากเดิมที่ชี้ไป 192.168.1.1 ให้เป็น 192.168.1.2
2. Restart Windows 2003 R2
3. Restart Windows 2000

จากนั้นผมก็ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วค่อย Demote เอา Domain จากเครื่อง Windows 2000 ออก (ใครจะทิ้งไว้นานก็กว่านี้ก็ได้นะครับ)
ส่วนคำถามที่ว่า Script ไม่ทำงานนั้นก็จะหมดไปครับถ้าเราทำ Transfer and seize ผ่าน
และตอนนี้เครื่อง Windows 2003 R2 ก็เป็น Domain Controller เต็มตัวครับ